อยุธยา ฉบับ One.Day Trip ..วัดท่าการ้อง-ตลาดน้ำคลองสระบัว -ตลาดน้ำอโยธยา
มาทำบุญครบรอบวันเกิด..อีกปีแระ อายุ อานาม ก็ 25 ขวบปีได้ เมื่อ สิบฟ่าปีที่แล้ววงง.. งง ล่ะสิ.. ตกลงอี จขบ. มันอายุเท่าไหร่กันฟร่ะ ??
![]()
อิฉันเองก็ ยัง มึน มึน อยู่กะไอ้ตัวเลขที่จะเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกวัน แต่ อายุสมองนี่ ลดน้อย ถอยลง ทุกปี ทุกปี
ครบรอบวันคุณแม่เจ็บปวดทั้งที...ถือโอกาสมาไหว้พระ ทำบุญ ที่วัดท่าการ้อง อยุธยา
แล้วก็แวะมาเที่ยว ตลาดน้ำคลองสระบัว - ตลาดน้ำอโยธยา:
:
เอ..ไม่ช่ายสิ ..แวะไปไหว้พระ แล้วมาเที่ยว คลองสระบัว หุ หุ
ถ้าไม่ใช่ คนบาปนี่ ..พูดม่ะด้ายอย่างเชิดหน้า ชูตาขนาดนี้ คริ คริ
vvvvvvvvvvv
vvvvvvvvvv
vvv
...มาถึงตลาดน้ำคลองสระบัวแล้ววว
![]()
ป้ายส้ม เด่นชัด ปักให้เห็นตลอดทาง (หากใครสนใจไปเที่ยวตลาดน้ำคลองสระบัว รับรองไม่หลง)
มีป้ายบอกที่ฝากรถหลายจุด ... จอดรถเสร็จ ก็เดินตามเส้นทางไม้ไผ่ ร่มรื่น...สวยงาม
แม่ค้าสองคนนี้... ถือปาทังก้าาา มาด้วยย..
![]()
ปาทังก้า..นี่เป็น แสน็คสุดโปรด...ของอิฉันเลย
เห็นข้างทางเป็นไม่ด้าย ต้องจอดซื้อทุกครั้งไป... แถวสระแก้ว-โรงเกลือ ขายอยู่ถ้วยละ 20 บาท
3 ถ้วย 50 บาท..
อืม...แม่ค้าสองคนนี้ ขายตัวละ 20 บาท (แพ๊ง แพง)
"น้องคะ พี่ไม่เอาหรอก มันกินม่ะด้าย พี่ให้ตังส์กินหนม 20 บาท ไปแบ่งกันนะ"
![]()
"แบ่งไม่ได้ค่ะ.. ของใครของมัน พี่ช่วยซื้อหน่อยคนละตัว หรือสองตัวก็ได้" ---แป่ววว !
![]()
![]()
เจอไปขนาดนี้...เห็นที..จะเมินเฉยเสียมิด้ายยย
จ้าาา ... เอาก็ได้จ้าาา สองตัวแล้วกัน ..
---ได้กระจายรายได้ ช่วยชุมชน..ไป 40 บาท
![]()
แถ่น แถน แถ้นนนน...... กินไม่ได้ แต่ช่วยชาติได้ค่ะ
เข้ามาถึงด้านใน เสียค่าบัตรเข้าชม ท่านละ 50 บาท (ฟรี softdirk)
![]()
รอบการแสดงในแต่ละวัน...มีการแสดงไม่ซ้ำเรื่อง
หาอะไร.. จริงจัง แต่ กินเล่นได้ดีก่า.. หุ หุ
![]()
อันนี้...กินไม่ได้ ..แต่ เล่นได้
![]()
อันนี้ เอาแขวนเล่น ๆ
![]()
อันนี้ เอาไว้หนีบเล่น ๆ แต่ เจ็บจริงนะคะ !
![]()
ของเล่น ๆ ดูน่าสะสมมากค่ะ เพลิดเพลิน ..
![]()
และแล้ว.... เราก็มาเจอะ ของที่จริงจัง...แต่กินเล่นได้ ...
![]()
ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน...ภาชนะมาในรูปแบบ..เข่งปลาทู..กู้โลกร้อน..
![]()
อันนี้...ไม่ได้หิวจนตา พล่ามัวหรอกอ่ะ
อิฉัน..ลองทำภาพ set นี้ แนว ๆ pastel ดูค่ะ ...ภาพจะออกซีด ๆ ขมุกขมัว ...ดูฟุ้ง ๆ เล็กน้อย...
ว่าแต่...คนดูจะรำคาญตาป่ะเนี่ย...?
![]()
ระหว่างรอชมการแสดง...ก็ชมบัวกันไปก่อนนะคะ
![]()
รอจนแมงปอบินมา.....แชะ !
![]()
ดูสิ...พี่กลุ่มนี้ เหมือนแกมี วิทยายุทธ เหยียบบนผิวน้ำได้...
![]()
เห็นอย่างนี้...น้ำลึกนะคะ อย่าประมาท !
vvvvvvvv
vvvvv
vvv
ดู..น้องคนนี้สิ.. ลอยไม่ขึ้นเลยอ่ะ .. คริ คริ
![]()
และแล้ว...การแสดงกลางน้ำพร้อมขับเสภาแห่งแรกและแห่งเดียว ก็ เริ่มขึ้น (ลอกโปรชัวร์มาเด๊ะ เด๊ะ)
![]()
ชื่อเรื่อง "ลิลิตพระลอ..ตอน พระลอตามไก่"
คำเตือน ++ : โปรดใช้วิจารณานในการอ่าน เด็กและเยาวชนมิควรอ่านตามลำพัง..
![]()
ไก่ไรหว่า...รำได้สวยและงามม๊ากกก
![]()
พระลอ---- "ว้าววว ไก่..ไปจับมาต้มยำไก่บ้านดีก่า..."
พระเพื่อน พระแพง---- "ไก่จ๋า...ไปหลอกล่อพระลอมาหาพวกฉันนะจ๊ะ "
![]()
พระเพื่อน กะ พระแพง พระธิดาสองสาวคู่ดูโอ้..ที่ต้องพระทัย หรือเรียกภาษาชาวบ้านว่า ถูกใจพระลอ
ในรูปร่างหน้าตาหล่อเหลายิ่งนัก จึงออกอุบายใช้ไก่ผีของปู่เจ้าสมิงพราย ไปล่อพระลอให้ตามมาถึงเมือง.. ???
เอ..ได้กลิ่นอะไร ตุ ตุ อ่ะ ???
![]()
...ไม่เสียแรง ที่อุตส่าห์ตามไก่...มา..
เห็นหน้าพระธิดาสองพระองค์ ก็หายเหนื่อย งามขนาดด ?
![]()
บรรยายไป บรรยายมา หาสาระไม่ได้..ชักจะไปกันใหญ่..
อิฉัน...ขออันเชิญ..อากู๋ มาค้นหาสืบเสาะ ข้อมุลเสริมปัญญากันดีกว่า ...ว่า ลิลิตพระลอ ตอนพระลอตามไก่นั้นนน
แท้จริงแล้วมีเรื่องราวอย่างไร...??
ลิลิตพระลอ เป็นวรรณคดีที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร ให้เป็นยอดแห่ง ลิลิต เมื่อ พ.ศ. 2459 แต่งขึ้นอย่างประณีต งดงาม มีความไพเราะของถ้อยคำ และเต็มไปด้วยสุนทรียศาสตร์ พรรณนาเรื่องด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ใช้กวีโวหารอย่างยอดเยี่ยม ในการบรรยายเนื้อเรื่อง ที่มีฉากอย่างมากมาย หลากหลายอารมณ์ โดยมีแก่นเรื่องแบบรักโศก หรือโศกนาฏกรรม และแฝงแง่คิดถึงสัจธรรมของชีวิต ลิลิตพระลอยังเคยถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากนักวรรณคดีบางกลุ่ม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวรรณกรรมที่มอมเมาทางโลกีย์
ทั้งเรื่องผู้แต่งและปีที่แต่ง ไม่ปรากฏหลักการหรือข้อความระบุที่ชัดเจน แต่อาจอาศัยเนื้อเรื่องที่ระบุถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231)แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน และเป็นที่ถกเถียงกันมาจวบจนปัจจุบัน นักจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาแน่ แต่ยังมีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก
เรื่องย่อ :
เนื่องจากเมืองเหนือสองเมืองเป็นศัตรูคู่อริไม่ถูกกัน กษัตริย์เมืองสรวงพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระลอ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่มีพระสิริวรกายงดงามหล่อเหลายิ่ง จนเป็นที่ปรากฏของหญิงทั้งหลาย และยังมีเมืองอีกเมืองหนึ่งชื่อว่า เมืองสรอง เมืองนี้ปกครองโดยกษัตริย์พิชัยพิษณุกร
กษัตริย์พิชัยพิษณุกรทีพระราชธิดาอยู่ 2 พระองค์ พระองค์พี่ พระนมาว่าพระเพื่อน พระองค์น้องพระนามว่า พระแพง พระราชธิดาทั้งสองพระองค์ทรงต้องพระทัยในพระลอยิ่งนัก ทั้ง ๆ ที่ยังไม่เคยเห็น นางรื่นกับนางโรย สองพระพี่เลี้ยงรู้ความจริง ด้วยความสงสารจึงทูลอาสาเข้าช่วยเหลือให้สมกับพระประสงค์ ส่งคนไปสีซอให้พระลอฟัง เป็นการพรรณนาความงามของพระเพื่อนกับพระแพง ไปหาหญิงแม่มดให้ช่วยทำเสน่ห์ แต่แม่มดปฏิเสธเพราะมนตร์เสน่ห์ของตนหมดฤทธ์ขลังเสียแล้ว แม่มดจึงพาไปหาปู่เจ้าสมิงพราย ปู่เจ้าสมิงพรายให้ความช่วยเหลือ จนพระลอต้องเสด็จมาเองสรอง
พระลอต้องมนตร์เสน่ห์เข้าก็ทรงเกิดความอยากทอดพระเนตรดูพระเพื่อนกับพระแพงขึ้นมาทันที จึงอำลาพระนางบุญเหลือพระราชมารดา และพระนางลักษณวดีพระมเหสี เสด็จโดยด่วยไปยังเมืองสรองพร้อมด้วยนายแก้วนายขวัญสองพระพี่เลี้ยง
เมื่อเสด็จถึงแม่น้ำกาหลง พระลอก็ทรงเสี่ยงน้ำ ปรากฏเป็นลางร้ายไม่ต้องำพระทัยเลย แต่ก็ต้องเสด็จต่อไป เพราะต้องมนตร์เสน่ห์ของเจ้าปู่สมิงพรายเข้าแล้ว ปรากฏมีไก่ผีของเจ้าปู่สมิงพรายคอยวิ่งล่อพระลอ กับพระพี่เลี้ยงให้ต้องไปจนถึงเมืองสรองจนได้ เมื่อไปถึงสวนหลวง นางรื่นกับนางโรยออกมาที่สวนหลวงก็ทราบข่าวว่าพระลอเสด็จมาถึงแล้ว จึงออกอุบายที่สำคัญคือ ให้พระเพื่อนและพระแพงเสด็จออกไปพบพระลอ จากนั้นก็พาพระลอเข้าไปอยู่ในตำหนักพระเพื่อนพระแพง ส่วนนายแก้วให้อยู่กับนางรื่น นายขวัญให้อยู่กับนางโรย ทุกอย่างลงตัวหมด
เวลาล่วงเลยไปถึงครึ่งเดือน กษัตริย์พิชัยพิษณุกรจึงทรงทราบเมื่อเสด็จมาพระตำหนักพระราชธิดา ทรงเห็นพระลอแล้วก็สงสาร ทรงเมตตารับสั่งให้จัดพิธีอภิเษกสมรสให้ แต่พระเจ้าย่าของพระเพื่อนพระแพง ไม่ทรงชอบพระลอจึงทรงขัดขวางทุกวิถีทาง ทรงอ้างรับสั่งของกษัตริย์พิชัยพิษณุกรว่าให้ทรงสั่งจับพระลอ ทหารจึงพากันจับพระลอไว้ ฝ่ายพระเพื่อนพระแพง และพระพี่เลี้ยงของทั้งสองฝ่ายรวม 4 คนก็ได้ช่วยขัดขวางจนถงที่สุด จนสิ้นพระชนม์และสิ้นชีวิตกันทั้งหมด กษัตริย์พิชัยพิษณุกร เมื่อทรงทราบเรื่องราวก็ทรงให้มีรับสั่งให้จับพระเจ้าย่าและพรรคพวกประหารชีวิตเสียให้ตายตกไปตามกัน เพราะทรงพระพิโรธยิ่งนัก
จากนั้นกษัตริย์พิชัยพษณุกรได้โปรดให้จัดพิธีพระศพอย่างยิ่งใหญ่ นางบุญเหลือพระราชมารดาของพระลอส่งฑูตมาร่วมงานพระ
ศพกษัตริย์(คือพระลอ พระเอน และพระแพง) แล้วทรงขอแบ่งพระอัฐิธาตุไปส่วนหนึ่งตั้งแต่นั้นมา เมืองสรองและเมืองสรวงก็มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกัน
ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/ลิลิตพระลอ
![]()
อ่านเนื่อเรื่องย่อ ก็พอจะทราบว่า นี่ถึงตอนที่ "พระเจ้าย่าของพระเพื่อนพระแพง ไม่ทรงชอบพระลอจึงทรงขัดขวางทุกวิถีทาง ทรงอ้างรับสั่งของกษัตริย์พิชัยพิษณุกรว่าให้ทรงสั่งจับพระลอ ทหารจึงพากันจับพระลอไว้.... "
พระลอ..ยอมให้จับ โดยละม่อม ซะที่ไหน ดูสิ !
![]()
![]()
![]()
1 : 1
![]()
ภาพนี้เด็ดดดด !
![]()
2 รุม 1
![]()
ว๊าย...พี่คนเดิม เค้าโดนอีกแระ !
![]()
![]()
นี่..มัวแต่ลีลากันอยู่ได้.. เอา เอ็ม79 เอ๊ย !. เอาลูกธนูไปกิน
![]()
ฉากนี้ ...พระลอโดนยิงซะแล้ว แต่ยังไม่ตาย ต้องมีบทเรียกน้ำตา ร่ำไห้ กันเสียก่อน
![]()
เป็นการแสดงกลางน้ำที่สวยงาม ... และขับเสภาได้ไพเราะมาก
![]()
ต้องขอปรบมือให้นักแสดงทุกคน... โดยเฉพาะพี่ด้านหลัง...(แกคงยังมึนอยู่..แกทุ่มเท และทุ่มทุนจริง ๆ )
มีทั้งโดนถีบ ตีลังกา หงายหลัง
และทุกท่านแสดงได้สวยงาม สมจริง ยอดเยี่ยม !!!
![]()
![]()
การแสดงกลางน้ำพร้อมการขับเสภาที่ตลาดน้ำคลองสระบัว มี ทุกวัน เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เปิดเวลา : 10.00 น.-17.30 น.
รอบการแสดงไม่ซ้ำวันละ 5 รอบ : 10:00 น., 12:00 น., 13.30 น. , 15:00 น., และ 16:30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็กโต 25 บาท เด็กเล็กฟรี
เรื่องที่จัดแสดง : มโนราห์, ไกรทอง , พระลอ , สังข์ทอง, กากี , จันทโครพ, นางสิบสอง ,ปลาบู่ทอง และเรื่องล่าสุด พระอภัยมณี ตอน "หนีนางยักษ์ สู่เกาะแก้วพิศดาร"
:
:
ละครก็จบไปแล้วนิ ????
ตาแว่น ..ลงไปแอ็คท่า...
"รับนักแสดงเพิ่มมั๊ยคร้าบบ ?"
![]()
![]()
"ท่าจับปลาบู่ของผม พอไหวป่ะคับ"
![]()
มี acting ..ด้วยอ่ะ ??? ทำไปด๊ายยย ไม่อายเด็ก..
![]()
![]()
ก่อนกลับ...แวะมาให้อาหารเจ้าทุย.. เขางาม
![]()
น้อยทุย ..หล่อไม่แพ้ ...พ่อเลยนะเนี่ย ^^
![]()
น้องห่านคู่นี้...อวบน่าหม่ำ เอ๊ย น่ารักดี
![]()
![]()
![]()
บัวที่นี่... น่าจะอร่อยกว่า หญ้านะ...
![]()
![]()
เห็นน้องทุยแช่น้ำ แล้ว...น่าอิจฉา หุ หุ
![]()
ดอกบัวเยอะ และสวย จริงๆ สมกับคำว่า "คลองสระบัว..."
![]()
แวะมาไหว้พระอยุธยา แล้ว...อย่าลืมมาเที่ยว "ตลาดน้ำคลองสระบัว" กันนะคะ อิ ๆ
![]()
แล้วตามมาช้อป กิน เที่ยวต่อ ที่ตลาดน้ำอโยธยา เอ็นทรี่หน้านะคร้าาาา...
บทความแนะนำ